บรรดาสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของโลกกลับมาก้าวไปข้างหน้าอีกครั้งหลังผ่านพ้นช่วงเศรษฐกิจถดถอยเมื่อสามปีที่แล้ว โดย Pearson ยังคงเป็นสำนักพิมพ์อันดับหนึ่งของโลก
ตามรายการงานจัดอันดับประจำปีของ Global Publishing Performance โดย Livres Hebdo, Buchreport, Publishers Weekly และ The Bookseller นั้น พบว่า ตัวเลขรายได้ของปี 2010 สูงกว่าปี 2009 และ 2009
ยอดขายของสำนักพิมพ์ 10 อันดับแรกของโลกรวมกันมีมูลค่ากว่า สามหมื่นหนึ่งพันล้านยูโร หรือราวสองหมื่นเจ็ดพันล้านปอนด์ จากที่ในปี 2008 และ 2009 มียอดขายทั้งปีเพียง สองหมื่นเก้าพันล้านปอนด์ ในขณะที่ยอดขายของสำนักพิมพ์ 20 อันดับแรกของโลกรวมกันมีมูลค่าราว สี่หมื่นสองพันล้านยูโร ซึ่เป็นครั้งแรกที่ทะลุเพดาน สี่สิบล้านยูโร ตั้งแต่ปี 2007
โดย Pearson ยังเป็นผู้นำสำนักพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2010 ซึ่งมาจากส่วนของหนังสือเรียนเป็นหลักแต่ยังเป็นผลมาจาก Penguin ด้วย ที่ปีนี้ทำยอดขายได้สูงที่สุดโดยมียอดขาย 6% คิดเป็นมูลค่ากว่า หนึ่งพันล้านปอนด์ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ที่ตามหลังมาก็คือ STM publishers Read Elsevier, ThomsonReuters และ Walters Kluwer ซึ่งแต่ละสำนักพิมพ์ต่างก็มียอดขายดีกว่าในปี 2008 ส่วน Random House’s parent Bertelsmann มาเป็นอันดับ 6 ทั้ง ๆ ที่มียอดขายตกต่ำมาตั้งแต่ปี 2008 ส่วน อันดับ 7 คือ Hachette Livre ที่มียอดขายเติบโตตั้งแต่ปี 2008 ตำ่กว่า 1%
สำหรับ 10 อันดับแรกนั้น มีเพียงกลุ่มสำนักพิมพ์ของ Bertelsmann และ Hachette Livre เท่านั้นที่ยอดขายไม่ได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่มีเพียงกลุ่มสำนักพิมพ์ Bertelsmann และ Scholastic เท่านั้น ที่รายงานว่ามียอดขายต่ำกว่าในปี 2008 จากการจัดอันดับจะเห็นได้ว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงใน 6 อันดับแรก โดยที่ McGraw-Hill Education ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 7 แทนที่ Planeta นอกจากนี้ Cengage Learning และ Scholastic ได้ขยับเข้ามาสู่อันดับที่ 9 และ 10 ตามลำดับ
ผลสำรวจนี้เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างสำหรับการขายหนังสือ เมื่อสำนักพิมพ์จำนวนหนึ่งได้หายไปพร้อมกับการถดถอยของเศรษฐกิจและบางส่วนได้หันไปเน้น e-book รวมถึง Borders , Angus & Robertson และ British Bookshops นั้น ร้านหนังสือ อย่าง Barnes & Noble และ Waterstone’s ยังคงต่อสู้ยืนหยัดอยู่ได้แต่ที่เหนือกว่าผู้ขายรายอื่นนั้นมีเพียง Amazon ที่มียอดขายสูงกว่าในกรอบเวลาที่เท่ากัน
